
มาดูแลบ้านให้น่าอยู่ ปลอดภัย แข็งแรงทนทานกันเถอะ
ต้องยอมรับกันละว่า บ้านคือปัจจัยที่สำคัญอันดับต้นๆของชีวิตเรา ยิ่งคนที่มีครอบครัวมีสมาชิกในครอบครัวแล้วละก็ บ้านเป็นสิ่งที่ต้องการ และหากมีแล้วก็ต้องรักษามันให้ดี บ้านเป็นที่อยู่อาศัยที่เราและครอบครัวได้ใช้มักสำหรับการพักผ่อน ทำกิจกรรมในครอบครัวในวันหยุด เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเรา ไม่ว่าจะไปที่ไหนยังไงก็ไม่เป็นสุขเท่าอยู่บ้าน ดังนั้นการดูแลรักษาบ้านให้มีสภาพที่ดี แข็งแรง น่าอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก การดูแลรักษานั้นมีทั้งการจัดแต่งให้สวยงาม และการบำรุงรักษาให้คงทนถาวร สามารถใช้งานได้นาน และมีความปลอดภัยต่อสมาชิกในครอบครัวนั่นเอง
การตรวจสอบหาจุดที่ชำรุดเสียหายของบ้าน

1.ตรวจสอบการรั่วซึมของหลังคาบ้าน เนื่องจากหากมีการรั่วซึมของหลังคาจะให้ให้เกิดคราบเลอะ เป็นรอยตะไคร่น้ำตามเพดานฝ้าทำให้ได้รับความเสียหาย ดูไม่น่ามอง และยังอาจทำให้ข้าวของภายในบ้านเปียกอีกด้วย ต้องรีบแก้ไข ปูกระเบื้องมุงหลังคาที่แต่แตก และเปลี่ยนฝ้าใหม่

2.หมั่นเช็คสภาพระบบไฟฟ้าปลั๊ก สายไฟว่ามีรอยชำรุดเสียหายหรือไม่ ควรสังเกตตรวจสอบสายไฟ ปลั๊กไฟ หลอดไฟ หากพบว่าชำรุดควรเปลี่ยนใหม่ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อความปลอดภัยของสมาชิกภายในบ้านไม่ให้เกิดอันตรายจาก ไฟฟ้ารัดวงจร ไฟช็อต ไฟรั่ว หรืออาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้

3.หมั่นดูแลสี ความเสียหายของบ้านเพื่อซ่อมแซมปรับปรุงอยู่เสมอ หมั่นตรวจสอบตัวบ้าน เมื่อพบว่าสีผนังอาคารเกิดฝุ่นคล้ายแป้ง แสดงให้เห็นว่าสีเริ่มเกิดการเสื่อมสภาพ รอยร้าว สีลอก ทำรัง ควรให้ช่างดูแลซ่อมแซมอุดรอย ทาสี ขัดเงา ทาเคลือบป้องกันปลวกให้เรียบร้อยเพื่อให้บ้านคงสภาพดีดังเดิม

4..ตรวจสอบพื้นคอนกรีต เช่นพื้นโรงรถ พื้นลานซักล้าง พื้นทางเท้า พื้นคอนกรีตนั้นควรตรวจสอบทุกๆ ปี เพราะโดยธรรมชาตินั้น ดินจะเกิดการทรุดตัว ทำให้พื้นคอนกรีตทรุดเกิดรอยร้าวหรือแตกเป็นเศษเล็กๆ หรือเป็นหลุมทำให้เกิดความเสียหายควรทำการซ่อมแซม
5.ตรวจสอบรอยรั่วซึมของน้ำ บ้านที่มีถังสำรองน้ำกักเก็บน้ำไว้ใช้ควรตรวจสอบรอยรั่วซึมของน้ำ ควรตรวจสอบรอยรั่วซึมของน้ำว่ามีดินเปียกหรือผนังเปียกที่เกิดจากการรั่วซึมของน้ำ รวมถึงการตรวจสอบตะไคร้น้ำข้างถัง
ดูแลทำความสะอาดแก้ไขจุดบกพร่องของบ้าน

1.ดูแลความสะอาดพื้นกระเบื้อง ไม่ควรปล่อยให้มีน้ำขังพื้นหากมีน้ำขังปล่อยไว้อาจจะมีตะไคร่มาจับ ทำให้ลื่นหกล้มได้ง่าย ดังนั้นควรขัด เช็ดน้ำให้แห้ง

2.ดูแลความสะอาดของทิ้งของเสีย ไม่ควรทิ้งขยะลงไปในท่อ เพราะจะทำให้อุดตันได้ไม่ควรทิ้งขยะลงในท่อระบายน้ำ เพราะอาจทำให้ท่ออุดตันจนไม่สามารถระบายน้ำได้ ต้องเสียเวลา ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอีกด้วย ควรทิ้งในถุงขยะที่จัดเตรียมไว้

3.ดูแลความสดชื่นสวยงามของธรรมชาติในบ้าน ดูแลสวน และต้นไม้ไม่ให้รก ควรดูแลต้นไม้ ตัดหญ้า ตัดกิ่งที่ขึ้นมารกให้ดูเป็นระเบียบ หากปล่อยทิ้งไว้จะเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์มีพิษพวก งู ตะขาบ และควรรดน้ำต้นไม้เพื่อให้ต้นไม้งามให้ร่มเงาไม่แห้งเหี่ยวและตายไป

4.หมั่นทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูบ้านอยู่เสมอ บ้านที่สะอาดย่อมทำให้บ้านน่าอยู่ เจริญหูเจริญตา มองแล้วอารมณ์ดี ป้องกันฝุ่นหรือเชื้อโรคเพื่อสุขภาพที่ดีของเราอีกด้วย ดูแลให้สะอาดเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคซึ่งส่งผลต่อสุขภาพผู้อยู่อาศัยด้วย
ดูแลป้องกันไม่ให้มีสิ่งต่างๆมากระทำให้บ้านเสียหาย
- ป้องกันดูแลผลิตภัณฑ์ของใช้ เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านที่มีคุณภาพ เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านที่มีคุณภาพ สภาพดีพร้อมใช้ อุปกรณ์ไม้ถูพื้น ไม้กวาด ผ้าเช็ดทำความสะอาด น้ำยาเช็ดกระจก นำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ เป็นต้น เมื่อเรามีอุปกรณ์ดีครบถ้วนจะทำให้เราอยากทำความสะอาด และทำความสะอาดดูแลบ้านได้อย่างดีมีคุณภาพอีกด้วย
2.ป้องกันดูแลของทิ้งของเสีย บ้านที่มีถังบำบัดสำเร็จรูปใต้ดินควรสูบตะกอนทุก 2 ปี ถังบำบัดสำเร็จรูปใต้ดินนั้นควรสูบตะกอนออกทุกๆ 2 ปี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และรักษามาตรฐานการใช้งานถังบำบัดนั้น และควรเติม จุลินทรีย์ธรรมชาติ หรือ ผงจุลินทรีย์ผสมน้ำ ลงในถังทุกๆ เดือนเพื่อให้แบคทีเรียย่อยสลายเองด้วย

3.ป้องกันดูแลแมลงมดปลวก มีระบบการป้องกันบ้านจากปลวก ควรมีการตรวจสอบปลวกทุกๆ 4 เดือนหากพบปัญหาปลวกขึ้นบ้านให้รีบแจ้งบริษัทที่รับกำจัดปลวกฉีดยาป้องกันปลวกและให้รับประกันปลวกขึ้นบ้านด้วย พอหมดประกันก็ให้มาตรวจดีอีกครั้งเพื่อต่อประกันปลวกขึ้นบ้าน เพราะปลวกขึ้นบ้านทำให้บ้านได้รับความเสียหายโดยเฉพาะเสาบ้าน คานซึ่งเป็นที่เสริมความแข็งแรงของบ้านต้องหมั่นดูแลให้ดีอยู่เสมอ

” หากวันนี้คุณสามรถดูแลรักษาบ้านของคุณได้ดังที่กล่าวไว้ บ้านก็จะเป็นดั่งวิมานอย่างที่ใครหลายๆคนได้กล่าวกันไว้ ความสวยงาม ทนทานของบ้านอยู่ที่การดูแลรักษาและการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายขึ้นกับบ้าน ไม่ว่าบ้านของคุณจะหลังเล็กหรือหลังใหญ่ หากว่าเราดูแลไม่ให้ชำรุดเสียหายหรือเสื่อมโทรม ทำให้บ้านสะอาดร่มรื่นแล้วบ้านหลังนั้นก็จะน่าอยู่ และสามรถใช้พักผ่อนได้อย่างมีความสุขได้ตลอดไป “